Mom : อาการแพ้ท้อง ยังคงทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัว จนบางครั้งมีผลทำให้ร่างกายและจิตใจไม่สดชื่น และไม่อยากอาหารในช่วงเช้าๆ วิธีที่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นช่วงตื่นนอน คือ ให้หาแครกเกอร์หรือขนมปังกรอบที่ทำจากโฮลวีท กินในตอนเช้า ที่สำคัญให้เปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ มาเป็นการทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้ท้องว่าง
ความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณแม่ : มดลูกของคุณ ซึ่งเคยมีขนาดเท่ากำปั้น บัดนี้มีขนาดเท่ากับผลเกรฟฟรุ๊ตค่ะ ช่วงนี้คุณแม่อาจเริ่มมีอาการที่เรียกว่าตะคริว หรือรู้สึกเจ็บบริเวณช่องท้องด้านล่างหรือด้านข้าง เนื่องมาจากการที่มดลูกของคุณตึงขึ้นหรือเกิดการบีบตัวในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ โปรดปรึกษาแพทย์หากการบีบตัวของมดลูกมาพร้อมกับเลือดที่ออกมาจากช่องคลอด
Baby : นิ้วที่มือและขาแตกตัวออกมาให้เห็นเป็นรูปร่าง ข้อศอก ข้อแขนเริ่มทำงาน โครงสร้างหูชั้นนอกเริ่มพัฒนาขึ้น และมีริมฝีปากและปลายจมูกปรากฏขึ้นบนใบหน้า ซึ่งตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปคุณแม่ก็สามารถเรียกตัวอ่อนว่า “ทารก” ได้เต็มปาก
ความเปลี่ยนแปลงในตัวทารก : ตอนนี้เอ็มบริโอมีขนาดประมาณผลองุ่น 0.56 - 0.8 นิ้ว จากส่วนบนสุดถึงบริเวณก้น ตอนนี้เริ่มมีเปลือกตาแล้วค่ะ คุณแม่จะสามารถมองเห็นจมูกของลูกแล้ว แขนเริ่มยาวขึ้นและโค้งงอบริเวณที่เป็นข้อศอก ซึ่งเป็นบริเวณที่นิ้วและนิ้วเท้าจะเจริญเติบโตและแยกออกจากกันในที่สุด
ตั้งครรภ์ 8 สัปดาห์
เซลล์เม็ดสีพัฒนาระบบนัยน์ตาที่ซับซ้อนภายในสมอง คุณจึงต้องหมั่นกินอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และวิตามินบี 2 ก็มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ สารอาหารเหล่านี้มีในอาหารประเภท ไข่แดง ไข่ปลา เนยแข็ง ผักใบเขียว เป็นต้น
เช็กอาการเสี่ยง
แม้ว่าผู้หญิงโดยส่วนใหญ่ จะสามารถผ่านพ้นการตั้งครรภ์ไปได้ด้วยดี แต่ในบางครั้ง การไปพบแพทย์ตามนัดอยู่เสมอจะช่วยกลั่นกรองอาการที่อาจเป็นปัญหาร้ายแรงให้ทุเลาลงได้ อาการเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ เช่น โรคครรภ์เป็นพิษ เลือดออกทางช่องคลอด ท้องนอกมดลูก คลอดก่อนกำหนด อาการเหล่านี้ โดยส่วนใหญ่จะแสดงอาการออกมาในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ แต่คุณสามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลสุขภาพครรภ์ให้ดีเสียแต่เนิ่นๆ
ว่าที่คุณแม่เป็นไง กันบ้างนะ
สัปดาห์นี้ทารกมีการพัฒนาของระบบอวัยวะต่างๆ เริ่มชัดเจนขึ้น ทั้งจมูก ปาก ตา ก็เด่นขึ้นมาบ้างแล้วด้วย ทารกจะสูงประมาณ 1.6 เซนติเมตร เซลล์กระดูกเริ่มมีขึ้นมา นอกจากเปลี่ยนแปลงของทารกในครรภ์แล้ว คุณแม่ก็เช่นเดียวกันคะ สัปดาห์นี้ในคุณแม่ส่วนใหญ่มักที่จะมีอาการแพ้ท้องที่เริ่มรุนแรงขึ้น จนบางครั้งไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากอยากที่จะนอนหลับ อันนี้คุณแม่รอบถึงคนรอบข้างต้องเข้าใจด้วยนะคะ ส่วนการทานอาหารของคุณแม่อาจจะเป็นไปได้ยากสำหรับคนที่แพ้ท้อง เพราะจะไม่อยากอาหาร ได้กลิ่นอะไรก็เหม็น เวียนศีรษะ ในช่วง 3 เดือนแรกอาจจะต้องหนักใจหน่อยกับอาการแพ้นี้ แต่หากผ่านช่วงนี้ไปได้คุณแม่ก็จะรู้สึกดี ทานอาหารได้มากขึ้น ทำอะไรได้มากขึ้น ขอให้อดทน แล้วก็สู้สู้ นะคะ
แหล่งที่มา นิตยสาร : Pregnancy Advisor & Diary
ภาษาไทย ใช้ได้ดีกับ IE10, Chrome, Firefox 1024x768
